ข่าวล่าสุด

tuchel_headcoad

โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ไฟแรงสูงของสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับการที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ที่ออกมาพูดก่อนหน้านี้เอาไว้ชัดว่าการลุ้นแชมป์บุนเดสลีกา จะจบลงในเกมที่ทั้งสองทีมเจอกันสุดสัปดาห์นี้เลย หลังจากที่ไปเยือนทีม ดาร์มสตัดท์ ในวันพุธนี้ทีมเสือเหลืองมีโปรแกรมลงเล่นรับการมาเยือนของทีม เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ทีมที่มีคะแนนมากกว่าพวกเขาไปแล้ว 8 คะแนน ซึ่งมุมมองของ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมเสือใต้เชื่อว่าถ้าหากแต้มนั้นขยับห่างไปเป็น 11 คะแนนเท่ากับว่าทีมเป็นแชมป์ค่อนข้างแน่แล้ว “ผมรู้ดีกับว่า ฟิลิปป์ ลาห์ม คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้มีอะไรที่สิ้นสุดลงอยู่ดีหรอกครับ การที่พวกเขาพยายามทำให้การลุ้นแชมป์จบลงไวๆเพราะต้องการไปเน้นในฟุตบอลรายการอื่นแล้วนั่นเอง” “แน่นอนอยู่แล้วครับว่าเราต้องเจอกับ บาเยิร์น ที่ดีมากในวันเสาร์นี้ และยิ่งเราต้องเล่นเกมนี้มันต้องมีสมาธิมากขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก วันเสาร์นั้นไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นอย่างไร ถ้าหากจบลงแบบที่เป็นไปอย่างที่เขาว่ามันจะจบลงไหม อันนี้ไม่มีใครรู้ได้ แต่มันก็แน่นอนแหละครับว่ามันสำคัญกับพวกเราจริงๆ” ทั้งนี้ บาเยิร์น มิวนิค มีความจำเป็นจะต้องไปสู้กับ ยูเวนตุส ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และต้องพยายามชนะให้ได้เท่านั้นเพื่อเป็นการยืนยันว่าทีมจะได้เข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ก่อนหน้าจะเล่นกับ ยูเวนตุส พวกเขาต้องเจอกับยอดทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล เสียก่อน

แม็คมานามาน บอกไม่เคยคิดว่า ซีดาน จะเป็นเทรนเนอร์ชุดขาว

สตีฟ แม็คมานามาน ตำนานกองกลางของทีม ลิเวอร์พูล แสดงความรู้สึกว่าไม่คาดคิดคาดฝันมาก่อนเลยที่จะได้เห็น ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานนักเตะของทีมชาติ ฝรั่งเศส ก้าวขึ้นมารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด คนปัจจุบันได้ สตีฟ แม็คมานามาน สมัยที่เล่นฟุตบอลเคยอยู่ร่วมทีม เรอัล มาดริด กับ ซีดาน มาแล้ว 2 ปีด้วยกันและเขานั้นรู้จักเพื่อนร่วมทีมคนนี้เป็นอย่างดี เพราะรู้เสมอว่าเป็นคนชอบทำตัวเงียบๆไม่ค่อยตะโกนอะไรมากอย่างที่คิดกัน “ในตอนที่เขาอยู่ในห้องแต่งตัวด้วยกันกับผม ผมไม่คิดนะว่า ซีดาน จะเป็นผู้จัดการทีมของพวกเราในอนาคต”สตีฟ แม็คมานามาน เปิดอกเปิดใจกับหนังสือพิมพ์ชื่อดังของเกาะอังกฤษ “เขามันไม่ใช่คนที่ชอบพูดภาษาสเปนกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆด้วยซ้ำไป เขาเป็นคนที่เงียบมากเลย แม้ว่าจะเป็นสุดยอดนักเตะของโลก แต่เขามักจะพูดแค่ภาษาฝรั่งเศสอย่างเดียวเท่านั้น” “เมื่อมันเป็นแบบนี้คุณไม่มีทางคิดได้หรอกว่าเขาจะกลายร่างเป็นผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด ผมมองว่าคนอย่าง เฟร์นานโด เอียร์โร่ อาจจะเป็นมากกว่าเพราะความเป็นผู้นำและการพูดภาษาสเปนที่เป็นแบบอย่าง” “แต่สุดท้ายแล้ว ซีดาน ก็ก้าวขึ้นมารับหน้าที่นี้กับสโมสร เรอัล มาดริด ในตอนนั้น ผมมองว่านี่คือเรื่องที่น่าแปลกใจจริงๆ” ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด นั้น สตีฟ แม็คมานามาน ลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล มาหลายต่อหลายปี แต่ก็ไม่เคยพาทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยเพื่อนคนสนิทของเขาก็ได้แก่ เจมี่ เร้ดแนปป์ และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

hot_striker_kane

แฮร์รี่ เคน กองหน้าจอมถล่มประตูของสโมสร ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ประกาศอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่เคยเกรงกลัวทีมไหนทั้งนั้นในกรุงลอนดอน แม้ว่าจะมีทีมอย่าง อาร์เซนอล รอคอยอยู่ ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลและเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้แย่งกับ สเปอร์ของเขา เชื่อกันว่าในสัปดาห์หน้านี้ สเปอร์ส จะต้องพบกับงานหนักอึ้งโดยเริ่มจากการบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซนอล คู่รักคู่แค้นที่ยังมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยกันทั้งสองทีม แต่มุมมองของ แฮร์รี่ เคน ไม่สนเลยว่าจะเจอกับทีมไหน เพราะเชื่อว่าทีมเอาชนะได้ทุกๆทีมและยังเป็นทีมที่มีลุ้นทุกเกม แต่ไม่ได้คิดถึงการเป็นแชมป์อยู่ในสมองแต่อย่างใด “ผมมีเวลานั่งเฝ้าจดจ้องอย่างใจจดจ่อตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา เราไม่กลัวทีมไหนทั้งนั้นหรอกในเกมหน้า เราพร้อมทำเต็มที่ให้มากที่สุดเลยแหละ”แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษกล่าวผ่านเว็บไซด์ของสโมสร “ผมรู้อยู่แล้วว่าการต้องออกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มันโคตรยากเลย เพราะว่าพวกเขาเล่นได้ดีมากจริงๆในบ้านตอนนี้ และฟอร์มกำลังสุดยอดมากเลยด้วยแหละ” “แต่เอาเข้าจริงๆนะทีมเราก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีไม่แพ้กันหรอก ดังนั้นแล้วมันคือเกมที่น่าสนใจมากจริงๆ ผมว่ามันจะสนุกได้แน่ๆอย่างไร้ข้อโต้แย้ง ผมมั่นใจครับว่ามันคือวันที่น่าตื่นเต้นสุดๆ” “แฟนบอลของพวกเราเองนี่แหละเป็นแรงกระตุ้นที่ดีที่สุด มันจะช่วยทำให้บรรยากาศสุดยอดมากกว่าเดิม เราต้องบุกไปที่นั่นด้วยความมุ่งมั่นแบบสุดขีด”

mcclaren

สตีฟ แม็คคลาเรน เทรนเนอร์ทีม สาลิกาดง คนปัจจุบันยอมรับว่าในบรรดาทีมที่เขาเคยคุมมาทั้งหมดบางทีมที่กากที่สุดอาจจะเป็น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นี่แหละ ลูกทีมของ สตีฟ แม็คคลาเรน ลงสนามไปแล้วถึง 26 เกมในฤดูกาลนี้แต่เก็บแต้มได้แค่ 24 คะแนนเท่านั้นยังคงรั้งตำแหน่งรองบ๊วยเหมือนเดิม แต่พวกเขานั้นยังคงห่างจากพื้นที่ปลอดภัยไม่เยอะเท่าไหร่ แค่ 2 คะแนนเท่านั้น “มันอาจจะเป็นทีมที่น่าจะแย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยทำงานด้วยมาเลยนะครับ”สตีฟ แม็คคลาเรน กล่าวกับสื่อ “ภายหลังจากที่จบเกมการเสมอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปแล้วเราก็มีการเล่นฟุตบอลที่ดีขึ้น มันเห็นเลยว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างนะครับ ทีมเรามีทีมเวิร์ค ที่สุดยอดจริงๆและฟอร์มการเล่นที่พิเศษแบบนี้มันเลยทำให้พวกเราได้รับการชื่นชมจากแฟนบอลมากกว่าเดิม และแฟนบอลเราก็ชื่นชม แต่ในเกมต่อมาเราโดน เชลซี ยิงไป 5-1 ทั้งๆที่ควรโดนยิงเป็นสิบด้วยซ้ำไปในเกมนั้น” “อยู่ดีๆทีมก็เล่นไปอีกด้านหนึ่งเฉยเลย พวกเราก่อนหน้านี้พูดกันเยอะมากในเรื่องทัศนคติและการต่อสู้ ตราบใดที่ทีมยังคงตระหนักถึงในเรื่องนี้เราก็ไม่คิดว่ามันจะมีวันสายไปหรอก” “ทุกๆคนในสโมสรของพวกเราแล้วก็ผมต่างทำงานกันอย่างหนัก และผมหวังว่าแฟนบอลจะได้เห็นสิ่งที่วิเศษที่สุดแบบนั้นจากแต่ละคนในแต่ละสัปดาห์ และผมคิดว่าพวกเขาทำได้ดีมากๆแล้วทีมเรากลับมาแล้ว แต่พอสัปดาห์ต่อมาพวกเราพ่ายแพ้เละ มันเป็นไปได้อย่างไร บ้าไปแล้ว” “พวกเราต้องเปลี่ยนทีมไปเยอะมากเลย” “แค่คุณมีฝีเท้ามันไม่พอหรอกนะ ต้องเล่นคงเส้นคงวาด้วย”

kompany_captainteam

แวงซ็องต์ กอมปานี กองหลังหัวทุยของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงความมั่นใจอย่างออกนอกหน้าว่าทีมของเขาต้องเรียกเอาความเชื่อมั่นกลับมาได้อย่างแน่นอนหลังคว้าแชมป์แคปิตอล วันคัพ ได้สำเร็จ และบันไดต่อไปของทีมก็คือการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ แม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในอันดับที่ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีกก็ตามแต่ ทีมของ มานูเอล เปเญกรินี่ ตอนนี้มีคะแนนตามหลังทีมจ่าฝูงมากถึง 10 คะแนนด้วยกันและในการที่พวกเขาเป็นทีมแถวหน้าก็มักจะได้รับการแสดงความเห็นไปในทางที่ว่ามีลุ้นแชมป์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้แม้แต่ แวงซ็องต์ กอมปานี ก็บอกชัดตอบสนองความคิดนั้นด้วยการบอกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกๆคนไม่มีวันถอดใจแน่นอนอยู่แล้ว และทุกคนเชื่อว่าจะต้องตามทันอย่างแน่นอนที่สุด “มันคือสิ่งที่ทีมเราได้เรียนรู้เลยนะครับ ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ที่มันผ่านพ้นไปมันคือช่วงเวลาการเล่นโค้งสุดท้ายที่ลงตัวมาก เราเองก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำผลงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะ เราต้องเร่งให้เทพให้ได้ไวๆ”แวงซ็องต์ กอมปานี พูดถึงการทำงานในเกมที่เหลือว่าต้องเดินเครื่องอย่างเต็มที่แน่นอน “มันถึงเวลาแห่งการไล่ล่าแล้วแหละ ผมไม่มีวันมองไปที่ทีมก่อนหน้านี้หรอกว่าจะเป็นอย่างไร มันไม่ควรต้องไปมองคู่แข่งมากจนเกินเหตุหรอกนะ เราเองต้องยึดมั่นเข้าไว้ว่าจะลงสนามด้วยชัยชนะได้ทุกๆวัน” “มันมีอีกถึง 36 คะแนนให้เราได้กวดแต้ม เราต้องทำให้ได้มากที่สุดเท่านั้น ผมมองว่าปัจจุบันทีมไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว เราพร้อมลุยจริงๆ”